UI Pattern UI พื้นที่ว่าง (White Space) By uiblogaziner December 23, 20142980 views ShareTweet 0 หากจะให้ผมบอกชื่อ UI ที่ผมชอบใช้มากที่สุดออกมาสักชื่อหนึ่ง คงหนีไม่พ้น white-space UI หรือ UI พื้นที่ว่าง และ designer หลายๆ คนอาจยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองกำลังใช้ UI นี้อยู่ White-space (รวมถึง negative space) เป็น UI ที่ใช้งานง่ายทีสุดและทรงประสิทธิภาพที่สุด แต่หลายๆ คนไม่เห็นประโยชน์ของมัน และกลับมองว่าเป็นพื้นที่ที่เปล่าประโยชน์ แทนที่จะเอาไปใส่เนื้อหาให้มันแน่นๆ เราลองมาดูตัวอย่างการใช้งาน white space จากหลายๆ เว็บ หลายๆ กรณีกันครับ อย่างแรก เว็บดังๆ ของเมืองไทย เช่น sanook, kapook.com, ให้ความสำคัญกับ white-space น้อยมาก จากรูปด้านบนของเว็บ sanook.com บางอันข้อความติดชิดทั้งรูปข้างบนและข้างล่างทำให้ไม่รู้ว่ามันเป็นข้อความของอันไหนกันแน่นะ รวมไปถึงเว็บในทวีปเอเชียที่เน้นให้ข้อมูลเนื้อหาแบบว่าเน้นปริมาณ แต่ไม่ได้คำนึ่งถึงความยากง่ายต่อการอ่าน (Readability) จำไว้เสมอเลยครับว่า ยูสเซอร์สแกนข้อมูล ไม่ใช่อ่าน ดังนั้นแล้ว เราต้องจัดกลุ่มข้อมูลให้เป็นสัดส่วน ด้วยการใช้เส้นคั่นหรือง่ายที่สุดก็คือ ใช้ white-space ครับ เว็บ medium.com จะเด่นเรื่องการใช้ white-space เอามากๆ ครับ อ่านบล็อคของเว็บนี้จะรู้สึกสบายๆ ไม่ต้องเกร็งสายตา ส่วนเว็บ time.com พอขึ้น section ใหม่ เค้าก็ใช้ white-space หนักๆ เลย (ส่วนไฮไลท์สีฟ้า) เว็บ stock2morrow ผมลองปรับให้แต่ละรายการมี white-space มากขึ้นก็ช่วยให้อ่านได้ง่ายขึ้นนะครับ อีกตัวอย่างของพลังของ white-space คือ ผมเคยต้องออกแบบฟอร์มค้นหาใหม่ให้ Agoda โจทย์คือ ต้องการให้ฟอร์มเด่นขึ้น แต่ของเดิมที่ไฮไลท์สีฟ้ารอบๆ ผมว่าก็เด่นแล้วนะ แต่พอผมลองเพิ่มพื้นที่ขาวๆ เป็น 2 เท่ารอบๆ ฟอร์ม แล้วใช้ขอบเป็น transparent สีดำ เท่านี้แหละ ทุกคนโอเคเลย เพราะมันทั้งสวยและเด่นกว่าของเดิมจริงๆ การใช้งาน white-space ยังช่วยเรื่องอารมณ์ความรู้สึกด้วย สินค้าที่มีแบรนด์หรือหรูหราหน่อยมักจะใช้ white-space สื่อถึงความฟุ่มเฟือย หรูหรา แต่ดูดี เช่น หน้าเว็บนาฬิกา rolex ตรงแบนเนอร์หลัก จะเห็นเลยครับว่าตัวหนังสือจะอยู่รอบๆ white-space ที่กินพื้นที่ใหญ่มาก เทียบได้กับบ้านคฤหาสน์ที่ใหญ่โตอลัง แล้วจัดดิสเพลย์เล็กๆ ไว้ตรงกลางห้องโถง มันทั้งเด่นและสื่อว่าเรารวย ^^ ไม่ใช่เฉพาะในหน้าจอคอมเท่านั้น white space ยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้งานกับงานออกแบบต่างๆ ได้อีกด้วย เช่น ลองเปรียบเทียบงานออกแบบบรรจุภัณฑ์ (packaging design) ทั้งสองแบบด้านบนดูครับว่า อย่างไหนดูน่าใช้กว่า อันซ้ายอ่านง่ายแต่ให้ความรู้สึกว่าเป็นของราคาถูก อันขวาขนาดตัวหนังสือเอาแค่พออ่านได้พอ แล้วใช้ white-space สร้างความรู้สึกว่าเป็นสินค้ามีคุณภาพดูดี อีกตัวอย่างง่ายๆ เรื่องการออกแบบตกแต่งภายใน (interior design) ที่เราพบเห็นกันอยู่ ที่ apple store เค้าจะวางสินค้าบนเนื้อที่ที่ดูกว้างขวางมาววววก และจัดวางสินค้าแต่ละชิ้นให้ห่างกันในระยะที่ดูแล้วไม่แออัด เกิดช่องว่าง (white space) ที่ทำให้เวลาเราจ้องมองสินค้าใดก็ตาม จะสร้างโฟกัสให้สายตาเราจับจ้องไปที่สินค้านั้น เกิดเป็นสมาธิให้ชวนต้องสัมผัส เห็นไหมครับว่า white space เป็นสิ่งสำคัญมากๆ ในการออกแบบ UI เพราะ white space ช่วย ทำให้การอ่าน (ด้วยการสแกนและแบบลงรายละเอียด) ง่ายขึ้นและรวดเร็ว สร้างความสัมพันธ์และแบ่งกลุ่มวัตถุ สร้างโฟกัสให้วัตถุ ทำให้ดีไซน์ดูดีมีราคา มีราศีสง่า ส่วนที่มองไม่เห็นใช่ว่าไม่สำคัญ แม้เราสัมผัสไม่ได้ แต่เรารู้สึกมันได้ และหากเราเข้าใจในสิ่งที่มองไม่เห็นนี้ มันจะกลายเป็นสิ่งที่ทรงพลังมากที่สุด เช่นเดียวกันกับ white space